วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
รัชกาลที่9
รัชกาลที่ 9 : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระนามเดิมว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) และหม่อมสังวาลย์ เสด็จพระราชสมภาพ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบิร์น รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ปัจจุบันทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เสวยราชย์นานที่สุดในโลกที่มีพระชนมชีพอยู่ และยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย โดยจะมีพิธีเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี ในปี พ.ศ. 2559
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแต่สร้างคุณอนันต์ให้แก่ราษฎรชาวไทย พระราชทานโครงการในพระราชดำริกว่า 2,000 โครงการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย ทรงตรากตรำพระวรกายทรงงานอย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อย แม้ในยามที่ประเทศไทยประสบกับภาวะเศรษฐกิจอย่างหนัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 พระองค์ก็ได้พระราชทานแนวคิดเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" และ "เกษตรทฤษฎีใหม่" เพื่อให้พสกนิกรได้พึ่งพาตนเองและใช้ชีวิตอยู่บนความพอเพียง จนได้รับการยกย่องจากสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จด้านการพัฒนามนุษย์ (UNDP Human Development Lifetime Achievement Award) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2549
ในด้านพระปรีชาสามารถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปี่ยมไปด้วยพระอัจฉริยภาพทั้งในด้านดนตรี กีฬา และด้านภาษา พระองค์พระราชนิพนธ์บทเพลงไว้มากกว่า 40 เพลง และพระราชนิพนธ์งานเขียนถึง 18 ชิ้น ในด้านกีฬา พระองค์โปรดกีฬาเรือใบเป็นพิเศษ โดยทรงเป็นตัวแทนของประเทศไทยแข่งเรือใบในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 9-16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งในครั้งนี้พระองค์ทรงชนะเลิศเหรียญทอง โดยทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญทองจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ณ ขณะนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับ ณ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเข้ารับการถวายการดูแลพระพลานามัย และทุกครั้งที่พระองค์เสด็จฯ ออกจากที่ประทับ เหล่าพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จฯ เพื่อชื่นชมพระบารมี พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สถาบันพระปกเกล้า
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น